“ครูสอนคิด” ทางออกของการศึกษาไทยยุค 4.0

        การปฏิรูปการศึกษาเป็นสิ่งที่ประเทศไทยพูดกันมานานหลายสิบปีและมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทั้งในทางนามธรรมและรูปธรรม จากวิธีคิดแนวทางเด็กเป็นศูนย์กลาง (Child Centered) พัฒนามาสู่ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ให้โรงเรียนทั่วประเทศต่างเอาไปปรับใช้อย่างเป็นรูปธรรม

       แต่สำหรับในทางปฏิบัติแล้วนั้น โรงเรียนใครทำได้ก็ทำ ใครทำไม่ได้ก็ต้องทน เพราะทุกโรงเรียนต่างมีศักยภาพที่ไม่เท่ากัน และการมอบนโยบายโดยไม่ได้ช่วยเหลือโรงเรียนในด้านอื่นๆ ยิ่งตอกย้ำปัญหาความเหลื่อมล้ำการศึกษาให้เกิดขึ้นเพิ่มเติมโดยเฉพาะกับเด็กชนบท และไม่เคยได้รับการแก้ไข การแก้ปัญหาด้านการศึกษา ส่วนมากจะให้ความสำคัญที่ตัวผู้เรียน แต่แท้จริงแล้ว “ผู้สอน”ก็เป็นปัจจัยสำคัญไม่แพ้กัน “ปรับวิธีเรียน เปลี่ยนวิธีสอน” จึงเป็นอีกคีย์เวิร์ดที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่จะเปลี่ยนอย่างไรให้เด็กคิดเป็น คิดเก่ง แก้ปัญหาได้เพราะถ้าสอนให้รู้จักคิด เขาก็จะมีความคิดสร้างสรรค์ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะคิดทำสิ่งใดก็จะมีความเป็นตัวของตัวเอง

       จึงเป็นที่มาของ Thinking School โรงเรียนสอนคิด ที่ ดร.ศราวุธ สุตะวงศ์ผู้อำนวยการโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย นำมาพัฒนารูปแบบการสอนคิดในสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทางของ King’s School ประเทศนิวซีแลนด์และได้จัดอบรม

         ติดตาม นิเทศจากครูโรงเรียนต้นแบบหลายครั้ง ตั้งแต่ปี2553 เรื่อยมาทำให้ครูได้รับความรู้และเทคนิคต่างๆ ในการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาความสามารถใน การคิดของผู้เรียนโดยการ “ปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน” พัฒนาผู้เรียนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์พร้อมด้วยวิชาการ วิชาชีพและวิชาชีวิต โดยเน้นการออกแบบการเรียนรู้และใช้เครื่องมือห้องเรียนต้องสอนคิด

          การแก้ปัญการศึกษาไทยในปัจจุบันเป็นเรื่องยากเพราะว่าครูไทย มีข้อจำกัดทั้งภาระงานมาก และจำนวนเด็กในห้องเรียนมีจำนวนมาก หรืออีกกรณีคือ ครูในพื้นที่ขาดแคลนไม่ครบชั้น ทำให้ครูจำนวนหนึ่งสอนตามหนังสือซึ่งจะได้ผลเฉพาะกับเด็กที่ชอบการเรียนวิธีนี้แต่ก็ยังมีเด็กอีกหลายกลุ่มที่ไม่เหมาะกับการเรียนวิธีนี้ เช่นบางคนต้องค้นหาคำตอบด้วยตนเองจึงจะสำเร็จ “อย่าลืมว่าในโลกปัจจุบัน บางทักษะเด็กบางคนมีความรู้มากกว่าครูด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นในห้องเรียนบางครั้งทั้งครูและนักเรียนจำเป็นการเรียนรู้ไปด้วยกันโดยครูอาจจะต้องปลี่ยนวิธีคิดเสียใหม่”

          ดร.ศราวุธ กล่าวว่า ครูไม่จำเป็นต้องเก่ง แต่ครูต้องเป็นคนจัดการการเรียนรู้หรือวางแผนการเรียนให้เด็กมากกว่า “ระบบของ Thinking School จะช่วยได้เพียงแต่ครูต้องได้รับการพัฒนา เปลี่ยนวิธีคิดและเปลี่ยนวิธีสอนทุกคาบ และเปลี่ยนไปตามครรลอง แล้วจะเห็นความมหัศจรรย์โดยมันจะไปเปลี่ยนที่ห้องเรียน เด็กจะมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ กระตือรือร้นอยากมาโรงเรียน อยากถกเถียงอยากพูดคุย และรับฟังเหตุผลครูต้องเป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ”

          ปัญหาของเด็กออกนอกระบบโรงเรียน เป็นอีกปัญหาสำคัญ เพราะเด็กอาจจะไม่เข้าใจความสำคัญของการศึกษา มองว่าการศึกษาเป็นเรื่องน่าเบื่อ หรือด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กโดดเรียนครูจึงต้องรู้จักวางแผนการเรียนการสอนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในห้องเรียน

ที่มา : https://www.learneducation.co.th/category/บทความ

#LearnEducation #LearningSolutionForAll